รีวิว | รีวิว Redmi Pad SE แท็บเล็ตราคาไม่เกิน 6,000 บาท หน้าจอสบายตาให้ความรู้สึกอ่านบนกระดาษ ขนาดใหญ่ 11 นิ้ว ลำโพง 4 ตัว ระบบเสียง Dolby Atmos

ใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตราคาน่ารัก สเปคระดับคุณภาพ Redmi Pad SE มันเป็นหนึ่งในตัวเลือกเหล่านั้น ซึ่งอยู่ในตระกูลแท็บเล็ตราคาไม่เกินหมื่น สเปคมาเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาด 11 นิ้ว สบายตา พร้อม Reading Mode ก็ให้ความรู้สึกเหมือนอ่านหนังสือจริงๆ ความละเอียด FHD+, Refresh Rate 90Hz, ลำโพง 4 ตัว, ระบบเสียง Dolby Atmos ขายเพียง 5,999 บาท

ดีไซน์ Unibody ระดับพรีเมี่ยม วัสดุอลูมิเนียมอัลลอยด์

Redmi Pad SE มาในดีไซน์แบบ Unibody ที่ให้ลุคหรูหราระดับพรีเมียม ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 478 กรัม ทำให้พกพาไปทำงานนอกบ้านได้ง่าย และเนื่องจากเป็นวัสดุอลูมิเนียมอัลลอยด์ชิ้นเดียว ตัวเครื่องจึงแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้อย่างไร้กังวล

สีที่เราได้คือ สีม่วงลาเวนเดอร์มีสีม่วงอ่อนและอ่อนโยน ทางด้านขวาของอุปกรณ์คือปุ่มเพิ่มระดับเสียงและปุ่ม Power ที่ด้านบนของอุปกรณ์ ด้านล่างเป็นช่องชาร์จและหูฟังขนาด 3.5 มม.


และข้อดีอีกอย่างที่ฉันชอบในการใช้เครื่องนี้คือวัสดุที่มีพื้นผิวด้าน ทำให้ไม่เกิดรอยนิ้วมือได้ง่ายเมื่อใช้งาน ไม่ต้องเช็ดบ่อยๆ

หน้าจอขนาด 11 นิ้ว สบายตา

หน้าจอขนาด 11 นิ้วมีความละเอียด FHD+ 1920 x 1200 ปรับอัตรารีเฟรชได้สูงสุด 90Hz ความสว่างสูงสุด 400 nits และปกป้องดวงตาด้วยแสงสีฟ้าต่ำที่ได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland และใบรับรอง TÜV Rheinland Flicker Free และมีการอ่านค่า โหมดที่ลดแสงสี ท้องฟ้า ทำให้ง่ายต่อการอ่านและใช้งานกับดวงตาของคุณเป็นเวลานานโดยไม่เมื่อยล้าดวงตา แต่ข้อสังเกตคือความสว่างของหน้าจอไม่ค่อยสว่างมากนัก เมื่อใช้กลางแจ้งจะมองเห็นได้ชัดเจนได้ยาก

โหมดการอ่านให้ความรู้สึกเหมือนอ่านหนังสือบนกระดาษ สบายตามาก

เด็กเล็กหรือพนักงานออฟฟิศที่ต้องใช้สายตาในการอ่านข้อความเยอะๆ หากจ้องหน้าจอนานๆ ก็อาจทำให้ปวดตาได้ แต่รุ่นนี้มี Reading Mode มาให้ใช้งานโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นจุดโปรดของฉันในการใช้งาน โหมดนี้ให้ความรู้สึกเหมือนอ่านหนังสือบนกระดาษ ไฟหน้าจอจะลดลงโดยอัตโนมัติ และปรับสีให้เป็นโทนสีอ่อนลง คุณสามารถใช้อ่านเว็บตูนได้อย่างสนุกสนานโดยไม่เมื่อยตา

โหมดนี้บน Redmi Pad SE ทำงานโดยการปรับอุณหภูมิสีของหน้าจอให้เป็นโทนสีอบอุ่น ซึ่งจะทำให้สีโดยรวมไม่บิดเบี้ยว แตกต่างจากการดูแลดวงตาทั่วไปหรือฟิลเตอร์แสงสีฟ้าที่เปรียบเสมือนการใส่ฟิลเตอร์สีเหลืองทับลงไปโดยตรง นอกจากนี้ยังเพิ่มฟิลเตอร์พื้นผิวหยาบคล้ายกับพื้นผิวกระดาษด้วย ช่วยเพิ่มความรู้สึกคล้ายกับอ่านหนังสือจริง

เปรียบเทียบการอ่านการ์ตูนขาวดำ

เปิดโหมดการอ่าน


เปรียบเทียบการอ่านการ์ตูนจากเว็บตูน

เปิดโหมดการอ่าน


ลำโพง 4 ตัว ระบบเสียง Dolby Atmos

รุ่นนี้มีลำโพง 4 ตัวที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos บอกเลยว่าคุณภาพเสียงแน่น พอได้มาเปิดดู One Piece บอกเลยว่าเสียงโดนใจ ได้ยินเสียงของโซโลดังขึ้น เสียงดัง. เปิดออกหมด เสียงไม่แตก ไม่แหลมและแสบหูจนเกินไป ใครเน้นใช้ดูซีรีย์นี่เหมาะมาก

การใช้หลายหน้าต่าง

เครื่องสามารถเปิด 2 แอปพร้อมกัน โดยแบ่งครึ่งหน้าจอ หน้าจอแบ่งเป็นซ้ายขวาการใช้งานปกติทั้งเมื่อใช้งานในแนวตั้งและแนวนอน แต่ข้อสังเกตคือในแนวตั้งสามารถปรับได้เฉพาะซ้ายและขวาเท่านั้น ปรับด้านบนและด้านล่างไม่ได้

ข้อมูลจำเพาะของ REDMI PAD SE

  • หน้าจอ LCD ขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1920 x 1200) อัตรารีเฟรชสูงสุด 90Hz
  • ซีพียู : Snapdragon 680
  • แรม LPDDR4X : 4GB ขนาดที่ทีมงานรีวิว (แต่วางจำหน่ายในไทย 6GB)
  • ความจุ : 128GB (เพิ่มได้ 1TB)
  • กล้องหลัง: 8MP (f/2.0)
  • กล้องหน้า: 5MP (f/2.2)
  • การเชื่อมต่อ: WiFi 2.4GHz | 5GHz BT5.0
  • ระบบเสียง : ลำโพง 4 ตัว รองรับ Dolby Atmos, Hi-Res Audio, มีพอร์ต 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 8000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 10W
  • ระบบ Android 13 ครอบทับด้วย MIUI Pad 14

ชิป Snapdragon 680

รุ่นนี้มีชิป Snapdragon 680 สามารถรับชมภาพยนตร์ Netflix ในรูปแบบ HD หรือแพลตฟอร์มรับชมภาพยนตร์อื่น ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา ส่วนการทดสอบการเล่นเกมก็ถือว่าเพียงพอแล้ว แต่…มันจะไม่ไหลลื่นมากนัก ถ้าเจอเกมที่ใช้เอฟเฟคเยอะจะเจออาการแลค หรือการกระตุกอย่างเห็นได้ชัด จากที่ผมได้ลองเล่นเกมที่ต้องการความเร็วอย่าง ROV ก็สามารถปรับเฟรมเรตได้สูงมาก แต่ยังมีกระตุกอยู่บ้าง และโดยเฉพาะหากเล่นเกมที่ต้องใช้กราฟิกหนักๆ อย่าง Genshin Impact จะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจน

ในเกม Genshin Impact กราฟิกได้รับการปรับเป็นอัตราเฟรมสูงสุดที่ 60 มีความล่าช้าในขณะที่ตัวละครกำลังทำงานอยู่ และเมื่อฉันพยายามเปลี่ยนมุมมองของตัวเอง พบว่าภาพติดขัดเป็นช่วงๆ ขอแนะนำให้เล่นกับกราฟิกเริ่มต้นซึ่งจะราบรื่นกว่ามาก

กล้องหน้า 5MP, กล้องหลัก 8MP

รุ่นนี้มีกล้องหน้า 5MP ความละเอียดสูงสุด 1080P (1920 x 1080) 30fps ซึ่งใช้งานได้ในระดับทั่วไป คือการใช้วิดีโอคอล การประชุมงานไม่ได้ผลเลย ส่วนกล้องหลังก็ 8MP ถือว่าโอเคครับ นอกจากนี้ยังมี AI Night Mode มาให้ด้วย รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 1080P 30 fps และในการเซลฟี่ก็มี Beauty ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียบเนียน

ทดสอบการถ่ายภาพกล้องหลัง


ทดสอบการถ่ายภาพจากกล้องหน้า


แบตเตอรี่ 8000mAh ชาร์จเร็ว 10W

รุ่นนี้มีแบตเตอรี่ขนาด 8,000mAh แต่น่าเสียดายที่ความเร็วในการชาร์จอยู่ที่ 10W เท่านั้น ใช้งานได้ในสถานการณ์ที่เรารีบออกไปใช้งานและไม่ได้เสียบแบตเตอรี่เลย แต่การใช้งานทั่วไปหลังจากแบตเตอรี่เต็ม 100% สามารถรับชมคลิปวิดีโอบน TikTok, Youtube และเล่นเกมได้บางส่วน มีการพักค้างคืน แล้วกลับมาเปิด Netflix ดูกันยาวๆ ทั้งหมดใช้เวลารวม 23 ชั่วโมง 9 นาที แบตเตอรี่ลดลงเหลือ 9% ซึ่งถือว่าเยอะมาก ทนทาน ใช้งานได้ดี

สรุปการใช้งาน

เครื่องที่ทีมงานรีวิวจะเป็น 4GB + 128GB แต่จริงๆ แล้ว Redmi Pad SE ที่ขายในไทยจะเป็น 6GB + 128GB ถือเป็นแท็บเล็ตมูลค่าไม่ถึง 10,000 บาทที่น่าใช้งาน ด้วยราคาที่น่าจับตามองพร้อมสเปคที่ครบครัน และผมคิดว่าใครที่ชอบดูหนังและซีรีย์คงจะชอบไม่น้อย เพราะตัวเครื่องมีลำโพง 4 ตัว ระบบเสียง Dolby Atmos ฟังแล้วเหมือนอยู่ในหนังเลย มันยังใช้งานได้เต็มๆ รวมถึงแบบแยกจอด้วย ส่วนการเล่นเกมก็เพราะทางทีมงานได้ RAM มา 4GB มารีวิวเมื่อเล่นเกมกราฟิกสูงๆ จึงทำให้เกิดความล่าช้าและกระตุกบ้าง และน่าเสียดายที่ฉันไม่ได้ทดสอบด้วยปากกาและคีย์บอร์ด สิ่งที่ฉันชอบที่สุดคือฟีเจอร์โหมดการอ่านที่ทำให้การอ่านรู้สึกดีมาก ใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตราคาคุ้มค่า ราคาไม่ถึงหมื่นครับตัวนี้แนะนำจริงๆ

ความแข็งแกร่ง

  • เป็นแท็บเล็ตมูลค่าไม่เกิน 10,000 บาท
  • สเปคคุ้มราคา
  • รับลำโพง 4 ตัว ระบบเสียง Dolby Atmos
  • น้ำหนักที่พอเหมาะ พกพาสะดวก
  • ได้ความจุขนาดใหญ่ถึง 128GB ในราคาเท่านี้
  • จอใหญ่11นิ้ว
  • เน้นใช้ดูซีรีย์ครับ
  • แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนาน
  • ดูซีรี่ย์นานๆเครื่องไม่ร้อน

ข้อสังเกต

  • ชาร์จเร็วเพียง 10W
  • ใส่ซิมไม่ได้ ใช้ได้แต่ Wifi
  • ใช้งานได้ 2 จอ แนวตั้ง ซ้ายขวาเท่านั้น
  • กล้องหน้ามีความละเอียดต่ำเล็กน้อย
  • เล่นเกมแล้วมันแลคครับ

ราคาขายในไทย

Redmi Pad SE มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Lavender Purple, Graphite Grey และ Mint Green จำหน่ายในประเทศไทยในรูปแบบความจุเดียว: 6GB + 128GB ราคา 5,999 บาท สามารถสั่งสินค้าผ่านลาซาด้าได้ และ ช้อปปี้ เท่านั้น

การส่งเสริม! ซื้อ Redmi Pad SE ระหว่างวัน 9-15 กันยายน 2566 รับหูฟังฟรี เรดมี่ บัด 4 ไลท์ ค่า 599 บาท!



About the author